รายละเอียด: น้ำมันเสน่ห์ จิ้งจก สองหาง อาจารย์ สุพจน์ ลือชา ฆราวาส ดังสมุทรปราการ เมตตา โชคลาภ แรง มีให้บูชา1ขวด สุดยอดแรงเฮี้ยน ประสบการณ์เมตตาสูง ฆราวาสจอมขมังเวทย์ ลูกศิษย์ลูกหามากมาย มวลสาร อาถรรพณ์แรงเห็นผลเร็วเชิญพิสูจน์ ประวัติอาจารย์สุพจน์
ในปีพุทธศักราช 2505 ในอำเภอธัญญบุรี จังหวัดปทุมธานี คุณพ่อสระ แก้วกลิ่น และคุณแม่น้อย แก้วกลิ่น ได้ให้กำเนิดทารกน้อย ซึ่งท่านทั้งสองได้ตั้งชื่อให้ท่านว่า สุพจน์ แก้วกลิ่นครั้งยังเยาว์วัยอาจารย์สุพจน์ มีความสนใจด้านพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เนื่องจากคนโบราณครั้งก่อน มักจะปลูกฝังให้บุตร หรือธิดา เข้าวัดเขาวาฟังธรรมตั้งแต่เยาว์วัย เพื่อปลูกฝังคุณธรรมและศีลธรรมไปในตัวของเด็ก นอกเหนือจากวิชาทางธรรม ท่านอาจารย์สุพจน์ ยังมีความสนใจด้านไสยเวทย์เป็นอย่างมาก พออายุได้ 7 ขวบ ได้ฝากตัวเป็นศิษย์และบุตรบุญธรรมกับหมอวลีหรือหมอลี อาจารย์เขมรด้านไสยเวทย์ที่โด่งดัง เมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว คนพื้นที่เก่าแก่ หรืออาจารย์ด้านไสยเวทย์รุ่นเก่า ๆ หากเอ๋ยชื่อหมอวลี หรือหมอลี ไม่มีใครที่ไม่รู้จักหมอลี แม้แต่ท่านอาจารย์เรือง แห่งบางบอน เคยกล่าวกับกระผมว่าเคยได้ยินกิติศัพท์หมอลีมานานแล้วหมอวลี หรือหมอลี มีบุตรธิดาอยู่ 6 คน แต่ไม่มีใครที่สนใจด้านไสยเวทย์ และเกรงว่าวิชาสายที่ท่านร่ำเรืยนจะสูญหาย เนื่องจากไม่มีศิษย์ที่สืบทอด ประกอบกับเห็นอาจารย์สุพจน์ตั้งแต่ยังเยาว์วัย และมีความสนใจด้านไสยเวทย์ จึงตัดสินใจถ่ายทอดวิชาทางไสยเวทย์ให้กับอาจารย์สุพจน์ วิชาที่ท่านอาจารย์สุพจน์ได้รับจากหมอลีในครั้งนั้น มี นิ้วเพชรพระอิศวร ,วิชาทำผงพราย , ไล่ภูตผี , การใช้อาคมรักษาโรคตาแดง และตาต้อ , การตั้งรูป ตั้งธาตุ
ปลุกเสกกุมารทอง และรักยม , การรักษาโรคงูสวัส , การตั้งศาลพระภูมิ และพรพรหม ฯลฯ
ท่านอาจารย์สุพจน์ติดตามหมอลี ประมาณ 11 ปี
หลังจากนั้นอาจารย์สุพจน์ ได้อุปสมบทเป็นสามเณรที่วัดจันประเทศ ตำบลบ้านใหม่
อำเภอเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีพระครูโอภาสจันทรคุณเป็นพระอุปฌาย์
ซึ่งการบวชเณรครั้งนี้เป็นผลดีกับท่านอาจารย์สุพจน์อย่างมาก เนื่องจากท่านพระครูโอภาส
จันทรคุณ มีความสนิทสนมกับหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง ซึ่งขณะนั้นหลวงพ่อแพ ได้ถูก
รับเชิญจากท่านพระครูจันทรคุณ ให้มาเป็นอาจารย์สอนด้านกรรมฐานให้กับพระในวัดอีก
ท่านหนึ่ง ซึ่งท่านอาจารย์สุพจน์ ได้ฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง โดยเริ่ม
สอนการทำสมาธิจิต และต่อด้วยวิปัสนากรรมฐาน และการลงยันต์พุทธซ้อน หรือพระเจ้า
อมโลกที่เรารู้จักกัน
ด้วยความสนใจด้านไสยเวทย์ ท่านอาจารย์สุพจน์ ได้ดั้งด้นไปฝากตัวเป็นศิษย์
หลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง อำเภอบางปลาหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งในขณะนั้น
หลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง ท่านโด่งดังมากเรื่องสักยันต์ โดยเฉพาะยันต์จิ้งจก โดยเรียน
วิชาทำน้ำพระพุทธมนต์ และการลงยันจิ้งจก 12 ประเภท เช่น จิ้งจก 2 หาง , จิ้งจกคาบ
ถุงทอง , จิ้งจกปี้ 2 ตัว , จิ้งจกปี้ 3 ตัว , จิ้งจกหางด้วน , จิ้งจกป่า , จิ้งจกคาบธง ,
จิ้งจกคาบศร เป็นต้น อาจารย์สุพจน์ติดตามหลวงปู่หน่ายอยู่ประมาณ 2 ปี จึงได้กราบ
ลา เพื่อสืบเสาะอาจารย์ที่แก่กล้าวิทยาคม โดยหวังจะฝากตัวเป็นศิษย์และได้รับการ
ถ่ายทอดวิทยาคมจากท่านอาจารย์เหล่านั้น
ในปีพุทธศักราช 2525 ท่านได้เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์พระพรหมวิหาญกิจ
วัดพรหมนิวาส อำเภอเมือง จังหวัดอยุธยา ติดกับวัดศาลาปูน ซึ่งท่านพระพรหม
วิหาญกิจ ท่านชำนาญการลงนะมหาพรหม , การสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา หรือแก้ไข
ดวงช่วงดวงตกต่ำ ฯลฯ ซึ่งท่านอาจารย์สุพจน์ก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาดังกล่าว
จากท่านอาจารย์พระพรหมวิหาญกิจ
และในปีพุทธศักราช 2527 ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดกระโดงทอง
อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีพระครูวิบูลย์พัฒนคุณ เป็นพระอุปฌาชย์
และพระอาจารย์พูน วัดบ้านแพน เป็นพระคู่สวดในสมัยนั้น และในปีนั้นเองท่านได้
ฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิกบเจา ซึ่งโด่งดังวิชาต่อกระดูก การทำ
น้ำมนต์ถอนคุณไสย ซึ่งขณะนั้นหลวงพ่อเมี้ยน ท่านดังในพื้นที่เงียบ ๆ และชื่อเสียง
ของท่านอาจารย์เมี้ยน ได้ขยายวงกว้างจนเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ หลังจาก
อุปสมบท อาจารย์สุพจน์ได้เดินทางไปขอร่ำเรียนวิชาจากอาจารย์ในจังหวัดอยุธยา
เช่นหลวงพ่อมี วัดมารวิชัย , หลวงพ่อวัย วัดบรมวงศ์ ซึ่งหลวงพ่อวัยในขณะนั้น
ชื่อเสียงท่านดังมาก ไม่ว่างานราษฎร์ งานหลวง ต้องมีหลวงพ่อวัยนั่งปรกทุกงาน
ก็ว่าได้ และได้เดินทางธุดงค์ไปยังฝั่งเขมร และลาว โดยมีการแลกเปลี่ยนวิชา
กับพระธุดงค์ และฆราวาส ฯลฯ